ปัจจุบันประเทศไทยกำลังขยับขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้าน IT ของอาเซียนอย่างรวดเร็ว
ทั้งจากนโยบาย “Cloud First” ที่ผลักดันโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารความเร็วสูง ไปจนถึงการเร่งพัฒนาทักษะบุคลากรด้าน AI ทั้งหมดนี้ล้วนช่วยเสริมสร้างระบบสนับสนุนด้าน IT ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ บริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากที่ขยายธุรกิจมายังไทย จึงให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุนด้าน IT ในฐานะหนึ่งในปัจจัยสู่ความสำเร็จ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเหตุผลที่ทำให้การสนับสนุนด้าน IT ในไทยเป็นที่น่าจับตามอง พร้อมเจาะลึกปัญหาที่หลายบริษัทมักพบ แนวทางการขอรับการสนับสนุน และวิธีเลือกพันธมิตรที่สามารถไว้วางใจได้
ทำไมอุตสาหกรรม IT ของไทยจึงเป็นที่จับตามอง

ต่อไปนี้เราจะพาไปดูเหตุผลหลัก ๆ ว่าทำไมภาค IT ของไทยจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดในสายตาของนักลงทุนและบริษัทจากต่างประเทศ
เศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องในฐานะแกนกลางของอาเซียน
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วในอาเซียน โดยรัฐบาลเองก็เร่งผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรม IT อย่างจริงจัง
โดยเฉพาะการจับมือกับ Huawei ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้าน AI และคลาวด์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเติบโตในอนาคต
การขับเคลื่อนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเช่นนี้ กำลังสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการเข้ามาขยายธุรกิจในไทยเป็นอย่างมาก
แหล่งอ้างอิง:รัฐมนตรี DE ลงนามความร่วมมือกับ Huawei คาดสร้างรายได้ 6 แสนล้านบาทใน 5 ปี – THAILAND.GO.TH
โครงสร้างพื้นฐานไอทีทันสมัย และบุคลากรคุณภาพ
ด้วยนโยบาย “Cloud First” ที่ส่งเสริมการใช้คลาวด์ของรัฐเป็นหลัก โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีในไทยจึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ การวางระบบสายเคเบิลใต้น้ำเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ยังช่วยให้การสื่อสารระหว่างประเทศมีความเร็วและเสถียรมากขึ้น
เว็บไซต์อ้างอิง:BOI「Digital and Creative Industry」PDF
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มั่นใจได้ สำหรับบริษัทญี่ปุ่น
ไทยมีมาตรการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) เช่น การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี รวมถึงการจัดตั้ง “ดิจิทัลพาร์ค” เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างชาติ
สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทญี่ปุ่นสามารถเข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจในไทยได้อย่างมั่นใจ และมีระบบสนับสนุนสำหรับการบริหารงานในระยะยาวที่ครอบคลุมมากขึ้น
อุปสรรคด้านไอทีที่บริษัทญี่ปุ่นมักเผชิญเมื่อขยายธุรกิจในไทย

จากจุดนี้ เราจะพาไปดูว่าเหตุใดบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยจึงมักประสบกับปัญหาด้านไอที และต้องรับมืออย่างไร
กำแพงด้านภาษาและความแตกต่างทางวัฒนธรรมทางธุรกิจ
แม้ว่าในไทยจะเริ่มมีการจัดตั้งระบบคุณวุฒิและการฝึกอบรมด้านไอทีอย่างจริงจัง แต่บริษัทญี่ปุ่นยังคงต้องเผชิญกับกำแพงทางภาษาและความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกับพนักงานไทย
โดยเฉพาะในเรื่องของศัพท์เฉพาะทางไอที หรือความเข้าใจไม่ตรงกันในขั้นตอนการทำงาน ซึ่งมักจะเป็นอุปสรรคในระดับปฏิบัติการ จึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างใกล้ชิด
การปรับตัวต่อข้อกฎหมายเฉพาะของไทย
อีกหนึ่งสิ่งที่ควรระวังเมื่อใช้บริการไอทีในไทยคือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับบริการคลาวด์ ซึ่งมักมีการปรับปรุงอยู่บ่อยครั้ง
การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยพาร์ทเนอร์ที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกฎหมายท้องถิ่น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการความเคร่งครัดด้านกฎระเบียบ เช่น การเงินหรือการผลิต
การขาดแคลนบุคลากรไอทีและภาระในการฝึกอบรมภายในองค์กร
แม้ว่าภาครัฐจะเดินหน้าโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แต่ในระดับองค์กรยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานไอที
การสรรหาและอบรมภายในอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง การใช้บริการจากพาร์ทเนอร์ไอทีในไทยจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหากสามารถรองรับการ
อบรมในรูปแบบ OJT (On-the-Job Training) และมีระบบการสอนหลายภาษา ก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น
แหล่งอ้างอิง:กระทรวงแรงงานแห่งประเทศไทย: แถลงข่าวงาน Thailand Digital Employers’ Day 2024
ลักษณะของธุรกิจที่ควรใช้บริการสนับสนุนด้าน IT ในประเทศไทย

ต่อไปนี้จะขออธิบายลักษณะของบริษัทที่เหมาะสมในการใช้บริการสนับสนุนด้าน IT ในประเทศไทย
บริษัทที่ประสบปัญหาด้าน IT เฉพาะตัว ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสาขา
ในประเทศไทย สภาพแวดล้อมของโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพของระบบสื่อสารมีความแตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ ส่งผลให้สำนักงานหรือโรงงานในแต่ละแห่งต้องเผชิญกับปัญหาด้าน IT ที่ไม่เหมือนกัน การมีระบบสนับสนุนด้าน IT ที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละสาขาได้อย่างยืดหยุ่น และสอดคล้องกับนโยบาย “Cloud First” ของภาครัฐ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
บริษัทที่มีปัญหาในการประสานงานระหว่างพนักงานในประเทศไทยกับสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น
หากการเชื่อมโยงด้าน IT ระหว่างสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่นกับพนักงานในประเทศไทยยังไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้เกิดอุปสรรคด้านภาษา ความล่าช้าในการแชร์ข้อมูล และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน สำหรับบริษัทที่ต้องบริหารจัดการข้อมูลระหว่างหลายสาขา หรือต้องรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ การใช้บริการสนับสนุนด้าน IT ที่เหมาะสมจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาเหล่านี้
บริษัทที่ต้องการทบทวนระบบความปลอดภัยและการดำเนินงานด้าน IT
ด้วยการพัฒนาโครงการสมาร์ตซิตี้และการบังคับใช้กฎหมาย Cybersecurity Act ที่เข้มงวดขึ้น ทำให้การจัดการด้านความปลอดภัยกลายเป็นประเด็นสำคัญในระดับผู้บริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
หรือข้อมูลทางธุรกิจ การมีพันธมิตรที่สามารถวางระบบที่แข็งแกร่งและให้การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
บริษัทที่ต้องการทบทวนระบบความปลอดภัยและการดำเนินงานด้าน IT

การแนะนำบริษัทหลักที่ให้บริการสนับสนุนด้าน IT ในประเทศไทย
บริษัท IT ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอุตสาหกรรม (เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต)
ในภาคการผลิตของไทย ความต้องการในด้านการเชื่อมต่อ IoT/เซ็นเซอร์ และการพัฒนาโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ให้การสนับสนุนด้าน IT และการวิจัยพัฒนาอย่างเหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม โดยยังมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการทดลองใช้จริง (Proof of Concept) และผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา
สำหรับบริษัทที่ต้องการโซลูชันเฉพาะด้านสำหรับภาคการผลิต บริษัทเหล่านี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
บริษัทที่ให้การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน IT ในระดับประเทศ
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) กำลังผลักดันการพัฒนา e-Government และศูนย์ข้อมูลระดับชาติ (National Data Center) ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และเมืองต่างจังหวัดทั่วประเทศ
บริษัท IT ที่ให้บริการสอดรับกับแนวทางนี้ กำลังขยายบริการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย และการวางระบบคลาวด์ในระดับประเทศ
สำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาระบบ IT ในสาขาหรือสำนักงานต่างจังหวัด การเลือกบริษัทที่มีศักยภาพในการรองรับพื้นที่ได้หลากหลายทั่วประเทศ ถือเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้
บริษัทที่ให้การสนับสนุนเป็นภาษาญี่ปุ่นสำหรับบริษัทญี่ปุ่นในไทย
สำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย การสนับสนุนในด้านภาษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ด้วยนโยบายสนับสนุนจาก BOI และ DEPA ที่ส่งเสริมบริการหลายภาษา บริษัท IT ที่มีบุคลากรซึ่งมีความเชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่นจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากความถูกต้องในการจัดการเอกสารและความเข้าใจในระบบระเบียบแล้ว การสนับสนุนที่เข้าใจวัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุ่นยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความมั่นใจให้แก่บริษัทญี่ปุ่นในไทยได้เป็นอย่างดี
วางใจให้ TOMAS TECH ดูแลระบบ IT ของคุณในประเทศไทย

ต่อจากนี้เราขอแนะนำบริการสนับสนุนด้าน IT ในประเทศไทย โดยบริษัท TOMAS TECH
บริการสนับสนุนด้าน IT ที่ TOMAS TECH ให้บริการ
TOMAS TECH มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และให้บริการด้าน IT อย่างครอบคลุมแก่บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย
เรามีเจ้าหน้าที่คนไทยประจำ Onsite ที่สามารถให้ความช่วยเหลือถึงสถานที่ รวมถึงมีระบบ Help Desk ที่รองรับทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
บริการครอบคลุมตั้งแต่การวางระบบคลาวด์ การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย จนถึงการสนับสนุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
นอกจากนี้ เรายังสามารถให้บริการที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ เช่น Cloud First และ e-Government ได้อย่างเต็มรูปแบบ จึงได้รับความไว้วางใจจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจำนวนมาก
ตัวอย่างบริษัทที่ใช้บริการ และปัญหาที่ได้รับการแก้ไข
TOMAS TECH มีประสบการณ์มากมายในการสนับสนุนการใช้งาน IT ในระดับหน้างาน เช่น โรงงานและศูนย์กระจายสินค้า
ตัวอย่างเช่น ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม เราได้ช่วยเปลี่ยนระบบเครือข่ายภายในให้กลายเป็นโครงสร้างระบบคลาวด์ความเร็วสูง และเชื่อมโยงระหว่างหลายสาขาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ส่วนในกลุ่มโลจิสติกส์ เราให้การอบรมการใช้งานระบบแก่พนักงานชาวไทย พร้อมทั้งตั้งค่าเชื่อมต่อ VPN กับสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น ช่วยให้สามารถมาตรฐานกระบวนการทำงาน และลดการพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้อย่างชัดเจน
โดยจุดแข็งของเรา คือความยืดหยุ่นและการให้บริการอย่างใส่ใจตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
ขั้นตอนตั้งแต่การติดต่อสอบถามไปจนถึงการใช้งานจริง
TOMAS TECH ให้บริการด้วยทีมงานที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ตั้งแต่การสอบถามครั้งแรกไปจนถึงการเริ่มใช้งานจริง
โดยมีขั้นตอนตั้งแต่การสอบถามรายละเอียด, เข้าสำรวจหน้างาน, สรุปความต้องการ, เสนอโครงการ, ดำเนินการติดตั้ง, และให้บริการดูแลหลังการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
โดยเราสามารถออกแบบระบบให้สอดคล้องกับนโยบาย Cloud First ที่รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอยู่ในปัจจุบัน
จึงมีผลงานทั้งในหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนอย่างหลากหลาย
หากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ด้าน IT ที่ไว้วางใจได้ในประเทศไทย TOMAS TECH ยินดีให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสนับสนุนด้าน IT ในประเทศไทย

ในส่วนนี้ เราขอตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการสนับสนุนด้าน IT ในประเทศไทย
สามารถให้บริการเป็นภาษาญี่ปุ่นได้หรือไม่?
ได้แน่นอนครับ TOMAS TECH มีทีมงานที่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษประจำอยู่ในประเทศไทย จึงสามารถประสานงานกับสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ เรายังมีการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบ OJT (On-the-Job Training) และโปรแกรมฝึกอบรมภายในองค์กร โดยอ้างอิงตามนโยบายการส่งเสริมบุคลากรด้านดิจิทัลของภาครัฐ เช่น DISDA จึงสามารถมอบการสนับสนุนที่ทั้งมีความเชี่ยวชาญและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีระบบสนับสนุนหลังการติดตั้งหรือไม่?
เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างมั่นใจหลังการติดตั้ง เรามีระบบเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีการตรวจสอบตามรอบระยะเวลาอย่างสม่ำเสมอ โดยทีมซัพพอร์ตของ TOMAS TECH ยังผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกับระบบรับรองบุคลากรของ DEPA และ DISDA เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ของเราจะมีความรู้ด้านเทคนิคที่ทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมให้การดูแลระบบในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ
มีการให้บริการกับธุรกิจประเภทใดบ้าง?
TOMAS TECH ให้บริการด้าน IT แก่หลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่ม อุตสาหกรรมการผลิต, โลจิสติกส์, และ หน่วยงานภาครัฐ เรามีประสบการณ์ในการให้บริการในภาคส่วนที่ NECTEC และ BOI ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และสามารถตอบสนองต่อปัญหาด้าน IT ที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง
สรุป
ในประเทศไทย ขณะนี้รัฐบาลกำลังผลักดันนโยบาย Cloud-First แนวคิด e-Government และโครงการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระบบนิเวศสำหรับการรับการสนับสนุนด้าน IT มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนั้น ความต้องการในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และการเชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่หน้างานก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
TOMAS TECH มุ่งมั่นให้การสนับสนุนด้าน IT ที่ตอบโจทย์ธุรกิจญี่ปุ่น โดยให้บริการในพื้นที่ประเทศไทยอย่างใกล้ชิดและเข้าใจบริบทในท้องถิ่นประเทศไทยเป็นอย่างดี
หากบริษัทของคุณกำลังวางแผนขยายฐานธุรกิจหรือเผชิญความท้าทายด้านการจัดการระบบ IT ในประเทศไทย
เรายินดีให้คำปรึกษาและนำเสนอแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณอย่างแท้จริง