การนำระบบ MES มาใช้ในโรงงานที่ประเทศไทย จะเปลี่ยนโฉมหน้าภาคการผลิตไปอย่างไรบ้าง

โรงงานในไทย มักพบกับปัญหาเฉพาะของหน้างานอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตล่าช้า การจัดการที่ยังอิงกับเอกสารกระดาษ หรือกระบวนการทำงานที่พึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากเกินไป ซึ่งล้วนส่งผลให้คุณภาพงานขาดความสม่ำเสมอ
และทางออกสำคัญของปัญหาเหล่านี้ คือการนำระบบ MES (Manufacturing Execution System หรือ ระบบปฏิบัติการในกระบวนการผลิต) เข้ามาใช้งาน โดยบทความนี้จะอธิบายอย่างชัดเจนถึงปัญหาที่พบในสายการผลิตของโรงงานญี่ปุ่นในประเทศไทย พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งาน MES รวมไปถึงขั้นตอนการดำเนินงาน และจุดสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการใช้งานจริง
 

ในบทความต่อจากนี้ เราจะพาไปรู้จักกับปัญหาที่มักเกิดขึ้นจริงในหน้างานของโรงงานที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
การผลิตล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นความคืบหน้าของงานในแต่ละขั้นตอนได้แบบเรียลไทม์ ทำให้การตรวจพบความคลาดเคลื่อนระหว่างแผนการผลิตกับผลการดำเนินงานจริงนั้นล่าช้า ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการส่งมอบที่ล่าช้าลงด้วย รวมไปถึงอาจมีสินค้าคงคลังที่มากเกินไป หรือชิ้นส่วนไม่เพียงพอได้
การจัดการด้วยกระดาษหรือ Excel ทำให้ควบคุมข้อมูลได้ยาก
เมื่อใช้เอกสารกระดาษหรือไฟล์ Excel ในการสั่งงานและบันทึกผลการผลิต ย่อมมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการกรอกข้อมูล รวมถึงความล่าช้าในการส่งต่อข้อมูล ซึ่งส่งผลให้การสรุปผลการดำเนินงานล่าช้า และยากต่อการวิเคราะห์สถานการณ์ในหน้างานหรือการตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที
การทำงานที่ยังขึ้นอยู่กับบุคคล ทำให้คุณภาพและการฝึกอบรมไม่เป็นมาตรฐาน
หากขั้นตอนการทำงานและองค์ความรู้ต่าง ๆ ยังคงอาศัยประสบการณ์ของหัวหน้างาน หรือใครบางคนที่มีประสบการณ์สูงเป็นหลัก รวมไปถึงการสอนงานให้พนักงานใหม่ ที่มักถูกปล่อยให้แต่ละคนรับผิดชอบกันเองโดยไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ประสิทธิภาพและคุณภาพของการผลิตไม่คงที่ ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
 
| ผลลัพธ์ที่ได้จากการนำระบบ MES มาใช้งานในสายการผลิต

ในบทความต่อไปนี้ เราจะอธิบายให้เห็นถึงประโยชน์ที่ชัดเจนของการนำระบบ MES (Manufacturing Execution System หรือ ระบบปฏิบัติการในกระบวนการผลิต) เข้ามาใช้ในโรงงาน
ติดตามสถานการณ์ผลิตได้แบบเรียลไทม์
ด้วย MES ช่วยให้สามารถตรวจสอบความคืบหน้าของแต่ละไลน์การผลิต รวมถึงสถานะการทำงานของเครื่องจักรได้แบบเรียลไทม์ ทำให้รู้ทันปัญหาหรือความล่าช้าที่เกิดขึ้นในหน้างาน พร้อมดำเนินการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างราบรื่น
ลดภาระงานเอกสาร ด้วยการทำงานแบบดิจิทัล พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
การสั่งงานและบันทึกผลการผลิตสามารถดำเนินการผ่านระบบได้โดยตรง พร้อมจัดเก็บข้อมูลและสรุปผลให้อัตโนมัติ ลดความผิดพลาดจากการเขียนหรือคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อน ช่วยลดภาระงานเอกสารของเจ้าหน้าที่ และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็ว
ยกระดับมาตรฐานงาน ลดการพึ่งพาคนใดคนหนึ่ง
ด้วย MES ที่จะช่วยกำหนดขั้นตอนการทำงานและเกณฑ์การตรวจสอบให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกจุด ลดปัญหาความต่างในการทำงานระหว่างคน พร้อมสนับสนุนการฝึกอบรมพนักงานใหม่ผ่านระบบ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาความรู้เฉพาะตัวของพนักงานบางราย และช่วยลดความผันผวนของคุณภาพงานได้

| ขั้นตอนการนำระบบ MES มาใช้งานในโรงงานไทย (ตั้งแต่สำรวจหน้างานจนถึงการใช้งานจริง)

ในบทความต่อไปนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการนำระบบ MES มาใช้งานในโรงงานไทย (ตั้งแต่สำรวจหน้างานจนถึงการใช้งานจริง)
สำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นในหน้างาน
เริ่มจากการลงพื้นที่สำรวจสายการผลิตของโรงงานในไทย เพื่อสังเกตปัจจัยที่ก่อให้เกิดความล่าช้า หรือส่วนที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมรวบรวมปัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกับพนักงานในหน้างานเพื่อค้นหาต้นตอของปัญหา และทำให้สามารถมองเห็นปัญหาแฝงที่ทางฝ่ายญี่ปุ่นอาจยังไม่รับรู้
ออกแบบระบบและวางแนวทางการแก้ไข
เมื่อได้ข้อมูลปัญหาแล้ว จะพิจารณาว่าฟังก์ชันใดในระบบ MES เหมาะสมสำหรับนำมาแก้ไข พร้อมทั้งวางแผนการติดตั้งให้สอดคล้องกับกระบวนการผลิตในปัจจุบัน รวมถึงออกแบบแนวทางในการเชื่อมต่อกับระบบอื่น เช่น ERP หรืออุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้งานอยู่เดิม เพื่อให้ระบบทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
ทดลองใช้งานและขยายผล
หลีกเลี่ยงการติดตั้งระบบพร้อมกันทั้งโรงงานในคราวเดียว โดยเริ่มจากนำร่องในบางไลน์หรือบางกระบวนการก่อน พร้อมฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งานระบบได้อย่างถูกต้อง จากนั้นประเมินผลและปรับปรุงจุดที่ยังมีปัญหา ก่อนจะขยายการใช้งานไปยังส่วนอื่นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความสับสนในหน้างาน
สร้างการใช้งานอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากเริ่มใช้งานจริงแล้ว จะมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบถูกใช้งานจนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานประจำวัน เช่น การอบรมซ้ำให้กับพนักงานที่ยังไม่คล่อง หรือเก็บข้อเสนอแนะจากหน้างานมาพัฒนาเพิ่มเติม และเมื่อระบบเริ่มนิ่งแล้ว ก็จะสนับสนุนให้โรงงานสามารถนำข้อมูลที่ระบบเก็บไว้มาต่อยอดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง
 

เราจะพาคุณไปรู้จักกับจุดแข็งของ TOMAS TECH ในการให้การสนับสนุนแบบครบวงจร สำหรับการนำระบบ MES มาใช้ในโรงงาน
การสำรวจหน้างานและจัดทำข้อกำหนด
เรามีทีมที่ปรึกษาแบบไบลิงกวล (ญี่ปุ่น-ไทย) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิต ที่จะเข้าไปวิเคราะห์หน้างานจริง พร้อมเก็บข้อมูลโดยคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรมและรูปแบบการทำงานเฉพาะของไทย นำมาจัดระเบียบปัญหาและความต้องการอย่างเป็นระบบ ช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหารจากญี่ปุ่นกับทีมปฏิบัติงานในไทย เพื่อหาประเด็นสำคัญที่ควรแก้ไขอย่างแท้จริง
การออกแบบระบบและการนำเสนอแนวทาง
ด้วยประสบการณ์ด้านการพลิกโฉมภาคการผลิต (DX) อย่างหลากหลาย TOMAS TECH จึงสามารถออกแบบระบบ MES ที่ใช้งานได้จริงในหน้างาน โดยเน้นความสะดวกของผู้ใช้งานเป็นหลัก พร้อมวางแผนการติดตั้งแบบเป็นขั้นตอน และออกแบบการเชื่อมโยงกับระบบอื่นที่ใช้อยู่เดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสนับสนุนระหว่างการติดตั้ง
TOMAS TECH จะทำหน้าที่เป็นผู้ร่วมดำเนินโครงการในพื้นที่จริง ช่วยบริหารความคืบหน้าและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง พร้อมจัดอบรมในหลายภาษาเพื่อให้พนักงานชาวไทยสามารถใช้งานระบบได้อย่างราบรื่น หากเกิดปัญหาใด ๆ ก็พร้อมให้การสนับสนุนอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ระบบเริ่มใช้งานได้ตามแผนที่วางไว้
การสนับสนุนหลังใช้งานและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเริ่มใช้งานแล้ว TOMAS TECH จะยังคงติดตามการใช้งานในหน้างานอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการยืนยันว่าพนักงานสามารถใช้งานระบบได้จริง รวมถึงให้คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อพบจุดที่ควรปรับปรุง และนำข้อมูลจากระบบมาวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น เป็นการสนับสนุนแบบครบวงจรที่ช่วยให้โรงงานสามารถนำระบบ MES มาใช้ได้อย่างมั่นใจ แม้จะเป็นการเริ่มต้นครั้งแรกก็ตาม
 
| คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพิจารณานำระบบ MES มาใช้งาน

ในส่วนนี้ เราจะมาตอบคำถามที่มักพบบ่อยเกี่ยวกับการพิจารณานำระบบ MES มาใช้งาน
หากพนักงานในหน้างานไม่มีทักษะด้านไอทีมากนัก จะสามารถใช้งาน MES ได้หรือไม่?
ได้แน่นอนครับ ปัจจุบันมีระบบ MES ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ด้วยหน้าจอที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ทันที โดยสามารถเริ่มจากฟังก์ชันพื้นฐานก่อนแล้วค่อยๆ ขยายต่อยอดได้ นอกจากนี้ หากมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญช่วยฝึกอบรมให้ ก็สามารถใช้งานได้จริงโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางด้านไอที
สามารถเชื่อมต่อ MES เข้ากับระบบหรือเครื่องจักรที่ใช้อยู่เดิมได้หรือไม่?
สามารถทำได้ครับ MES สามารถเชื่อมโยงกับระบบหลักอื่นๆ เช่น ระบบวางแผนการผลิตหรือ ERP รวมถึงอุปกรณ์ IoT และเซนเซอร์ต่าง ๆ ได้ การเชื่อมต่อเหล่านี้ช่วยให้สามารถดึงข้อมูลจากระบบเดิมเข้ามาใช้ หรือส่งข้อมูลการผลิตกลับไปยังระบบอื่น เพื่อให้สามารถดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ DX ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงระบบทั้งหมดในคราวเดียว
ค่าใช้จ่ายในการนำ MES มาใช้งานอยู่ในระดับใด?
ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามขอบเขตของโครงการและขนาดของระบบ หากเลือกใช้ซอฟต์แวร์ MES ที่มีอยู่ในท้องตลาด ก็สามารถเริ่มต้นได้ในรูปแบบรายเดือนโดยไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ แต่หากต้องการปรับแต่งระบบให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของบริษัท ก็จะมีค่าพัฒนาระบบเพิ่มเติม ทั้งนี้ TOMAS TECH จะเริ่มจากการสอบถามความต้องการอย่างละเอียด แล้วนำเสนอแผนที่เหมาะสมกับงบประมาณของลูกค้า ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด